Risk of Ruin

Risk of Ruin คืออะไร?

ความน่าจะเป็น (Probability) ที่จะเกิดการขาดทุนอย่างรับไม่ได้ (Unbearable Loss) “ความน่าจะเป็นที่พอร์ตหุ้นจะพังพินาศ”

Risk of Ruin “ความน่าจะเป็นที่พอร์ตหุ้นจะพังพินาศ” หามาได้ยังไง?

  • ใช้สูตรสมการทางคณิตศาสตร์ Mathematical Formula
  • ใช้การจำลองการลงทุน Monte Carlo Simulation in AmiBroker

ตัวอย่างคำนวน Risk of Ruin จากสมการคณิตศาสตร์ Formula

Risk of Ruin from Mathematical Formula

เพื่อศึกษาเพิ่มเติม ให้ไปยังลิงค์ข้างล่างเพื่อดาวน์โหลด Risk of Ruin PDF

ตัวอย่างการทดสอบ Risk of Ruin จากการทำ Simulation 10 ครั้ง

Case Aggressive Position Sizing and Stop Loss

Case Neutral Position Sizing and Stop Loss

Case Neutral Position Sizing and Stop Loss with Market Condition

Case Extra Position Sizing and Stop Loss with Controlling Exposure and Market Condition

Ruin (พอร์ตพินาศ) หรือ Unbearable Loss คืออะไร?

การขาดทุนอย่างรับไม่ได้หรือย่อยยับ ของนักลงทุนแต่ล่ะคนจะไม่เท่ากัน บางคนบอกว่าขาดทุนหมดตัว บางคนบอกว่า 50% บ้างก็มองที่ 20% หรือต่ำกว่านั้น ขึ้นอยู่กับหลายๆปัจจัย

ปัจจัยในการพิจารณา Ruin ของนักลงทุนแต่ล่ะคน

  • Your Strategy: กลยุทธ์ที่ใช้เทรดว่ามีความสามารถทำกำไรได้เท่าไหร่ และความเสี่ยง Drawdown เท่าไหร่
  • Your Market: ตลาดนั้นๆที่นักลงทุนเทรดอยู่ Market มีผลตอบแทนเฉลี่ยที่ผ่านมาเท่าไหร่
  • Your Finance: ตัวนักลงทุนเอง ที่รับความเสี่ยงได้ไม่เท่ากัน และสภาพการเงินที่ต่างกัน

Risk of Ruin PDF (72 Slides)

กดเพื่อดาวน์โหลด เอกสาร Risk of Ruin

การวัดค่าความเสียหาย Ruin (Unbearable Loss) ซึ่ง ThaiQuants วัดค่า Ruin ออกเป็น 2 แบบ

  1. วัดเทียบจากมูลค่าจุดสูงสุดของพอร์ต (Highest Equity) แบบคนทั่วไป ซึ่งก็คือ Max System Drawdown (MSDD) หรือ ThaiQuants เรียกว่า “Highest-Equity Ruin” (heRuin)
  2. วัดเทียบจากเงินต้น (Initial Equity) โดย ThaiQuants เรียกว่า “Initial-Equity Ruin” (ieRuin)

ธรรมชาติและลักษณะ ความพังพินาศของพอร์ต Nature of Ruin in Trading Systems

  1. กำไรหดหายนี่เรียกว่าแย่ MSDD/heRuin เงินต้น ieRuin หายนี่เรียกว่าหนัก  (ieRuin เป็นส่วนหนึ่งของ heRuin) โดยที่ ieRuin จะมีค่าน้อยกว่าหรือเท่ากับ heRuin เสมอ
  2. นักลงทุนส่วนมากประเมินผลกระทบทางจิตใจต่อการขาดทุนเงินต้น ieRuin … ต่ำเกินไป
  3. Max System Drawdown (MSDD) และ heRuin ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ในขณะที่ ieRuin สามารถถูก จำกัด/ลด/บรรเทา/หลีกเลี่ยงได้
  4. นักลงทุนควรวางแผนให้อยู่รอดในช่วงแรกก่อน โดยจำกัด/ลด ieRuin ให้น้อยที่สุด ก่อนที่จะไปมองกำไร และ MSDD/heRuin ในอนาคต
  5. กลยุทธ์และระบบเทรดที่ดี
    1. จะทำกำไรในทันทีและมากที่สุด ในสภาพตลาดที่เอื้ออำนวย
    2. จะรักษาและปกป้องเงินต้น ในสภาพตลาดที่ไม่เป็นใจ
    3. จะจำกัด/ลด การขาดทุนในช่วงเพิ่งเริ่มลงทุน ในทุกสภาพตลาด

วิดีโอแนะนำ Risk of Ruin

Description Risk of Ruin

X301-0-0 Overview for Risk of Ruin สวัสดีครับ ในวิดีโอชุดนี้นะครับจะเป็น Overview ของ Risk of Ruin นี่ อ่า..เผื่อใครสนใจจะได้ไปศึกษาต่อนะครับว่า Risk of Ruin คืออะไร อ่ะ..คำตอบง่ายๆสั้นๆเลยนะครับว่า Risk of Ruin ก็เป็นแค่ความน่าจะเป็นแค่นั้นเอง แล้วเดี๋ยวเรามาดูนะครับว่ามันเป็น ความน่าจะเป็นของอะไร แล้วทำไมเราถึงต้องให้ความสำคัญกับมันนะครับ แล้วHowนี่คือเราจะคำนวณมันออกมายังไง อ่ะ..What is “Risk of Ruin” ? นะครับก็คือเป็น Probability ความน่าจะเป็นนะครับที่จะเกิดความเสียหาย นี่Loss โอเคมั๊ยครับ เนี่ยในตารางเนี้ยคือความน่าจะเป็น …อันนี้มาจากทดสอบ strategy 6 strategies นะครับ จะมีความน่าจะเป็นนี่ที่ระดับความเสียหายต่างๆกัน..อันนี้คือมีความน่าจะเป็น 100% นี่ที่ strategy เราจะมีความเสียหาย ขาดทุน 10% เนี่ย อันนี้คืออะไรครับ ความน่าจะเป็นเป็น 0 ที่จะขาดทุน 10% นี่บอกว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่จะขาดทุน 10 % โอเคมั๊ยครับ แล้วถ้านี้ละ นี่คือความเป็นไปได้ 6% ที่จะขาดทุน 5% นะครับของพอร์ท เราจะได้ทำการคำนวณ Risk of Ruin หรือ ความน่าจะเป็นของความเสียหายเนี่ยที่ระดับต่างๆกันและใช้เปรียบเทียบว่าอันไหนดีหรือไม่ดียังไงเนี่ยนะครับ อ่ะ..อันนี้ก็บอก Why ทำไม Risk of Ruin เนี่ย so important ? อันแรกก็คือ Risk of Ruin เนี่ยมันจะช่วยเราตอบคำถามต่างๆดังนี้นะครับ ผมพยายามให้ภาพก่อนว่า เราเนี่ย What is the Probability of experiencing your Unbearable Loss ? นี่ Unbearable Loss นะครับ ความเสียหายที่หนักหน่วง/วิบัติ ต่อพอร์ทของเรานี่ เพื่อรู้ว่าเราจะมีความน่าจะเป็นเท่าไหร่ที่พอร์ทของเราจะวิบัติแล้วเดี๋ยวค่อยมาชี้แจงกันต่อนะครับว่าคำว่าวิบัติเนี่ย จะเป็นที่อะไร 10% 20% 50% หรือ 100% ความเป็นไปได้อยู่ที่กี่%นี่ แล้ววิบัติเท่าไหร่ล่ะ ต่อมาคือ Should you trade the strategy ? เราสมควรจะเทรด strategyนั้นๆหรือเปล่า strategy นั้นๆมันเหมาะสมกับเรารึป่าว อันนี้นักศึกษาต้องเข้าใจนะครับบาง strategy เนี่ยอาจจะมีความเป็นไปได้ที่จะ loss เนี่ย 20% เออ..อาจจะเทรดก็ได้หรือไม่เทรดก็ได้ เพราะงั้นเราต้องพิจารณาให้เหมาะสม What can you expect from the strategy ? เราสามารถที่จะคาดหวังอะไรจาก strategy นั้นๆได้บ้าง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของreturnหรือเรื่องของriskก็ตามนะครับ ความเป็นไปได้นี่อยู่ที่เท่าไหร่ ซึ่ง Risk of Ruin เนี่ยโฟกัสอยู่ที่ความเสี่ยง, ความเสียหายโอเคไหมครับ นี่..ความเสี่ยง ความเสียหาย ทั้งก้อนคือความน่าจะเป็น นี่..Is it going to be profitable ? สุดท้ายแล้ว strategyนั้นมันจะกลับมากำไรมั๊ย How long does it take to be profitable ? มันจะต้องใช้เวลาเท่าไหร่นะครับก่อนที่มันจะกลับมากำไร ตอนเริ่มต้นนี่เราเริ่มต้นที่ต้นทุนใช่ไหมครับ สมมติเป็น 1แสนก็แล้วกัน ไอแสนเนี่ยตอนแรกเนี่ยเทรดๆไปเนี่ย หุ้นมีขึ้นมีลงเนี่ยจะมีขาดทุนเบื้องต้นก่อน ถัดไปปุ๊บมันควรจะเก็บกำไร เก็บแต้ม สะสมแต้มกำไรไปเรื่อยๆโอเคมั๊ยครับ ต้องใช้เวลาเท่าไหร่ล่ะกว่ามันจะกำไรตลอดเวลาไม่กลับมาแตะต้นทุนแล้ว โอเคมั๊ยครับ What is the probable-worst Unbearable Loss ? ไอตัวเลขความน่าจะเป็นนะครับของความเสียหายเนี่ย กรณีที่แย่สุดเนี่ยที่ยังสมเหตุสมผลอยู่น่ะครับมันเป็นเท่าไหร่ มันจำเป็นมั๊ยที่จะต้องเป็นความเสียหายของทั้งพอร์ท มีแสนนึงนี่กลายเป็น 0 เป็นไปได้ไหม/จำเป็นไหม โอเคมั๊ยครับ เพราะฉะนั้นตรงนี้ต้องแยกแยะนะครับ ไม่ใช่บอกว่า Risk of Ruin คือเสียหาย 100%ของพอร์ท ไม่ใช่เลย บางคนเนี่ยอาจจะรับความเสียหายได้แค่ ไม่ต้องถึงร้อย แค่50%ของพอร์ทก็แย่แล้วนักศึกษา บางคนอาจจะตั้งไว้ที่ 25% ด้วยซ้ำ เราก็ต้องมาพิจารณานะครับ Will it survive an Unfavorable Market ? อ่ะ..มันจะรอดมั๊ยในตลาดที่ไม่เอื้ออำนวยเนี่ย โอเคมั๊ยครับ Will you be able to get through strategy drawdown ? แล้วนักศึกษาที่เทรด strategy นั้นๆอ่ะจะรอดช่วงที่strategyมี Drawdown รึป่าว จะรอดช่วงที่ตลาดไม่เอื้ออำนวยรึป่าว โอเคมั๊ยครับ และจะรอดไม่รอดยังไงบางทีมันไม่ได้ขึ้นกับstrategyอย่างเดียว มันอยู่ที่นักศึกษาด้วย What do you have to prepare for the drawdown ? เราจะต้องเตรียมอะไรบ้าง โอเคมั๊ยครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Money Management ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Extra capital cash ที่อาจจะต้องอัดเงินเพิ่มเข้าไป หรือการหยุดเทรด..นี่เป็นเวลา 3 เดือน 4 เดือน ครึ่งปี แล้วแต่กรณีไป อันนี้เราก็มาตอบนะครับว่า Why นี่ ตอนแรกเราถามก่อนว่า What is Risk of Ruin คืออะไร Risk of Ruin คือ Probability ทำไมมันถึงสำคัญนี่เราก็มาชี้แจง How to determine Risk of Ruin ? เราจะคำนวณนี่ Risk of Ruin ความน่าจะเป็นได้ยังไงปกติเนี่ยตอนเริ่มต้นเนี่ยนะครับ นี่พื้นฐานมาจากการ Gambling การพนันเนี่ย หลักๆเนี่ย ผู้เชี่ยวชาญนะครับbase onนี่ %win, Payoff Ratio และความเสี่ยงที่จะเสี่ยงกับ Position นั้นๆ / หุ้นตัวนั้นๆ โอเคมั๊ยครับ ก็มีอ่ะ เค้าก็ตั้งสูตรมานี่ สูตรนี้มีหลายสูตรมีหลายเจ้านะครับ ผมแค่ยกตัวอย่างให้รู้แล้วหาสูตรมา แล้วเอา%win, Payoff Ratio, %Risk ใส่เข้าไปในสมการเพื่อหาอะไร ..ความเป็นไปได้ Risk of Ruin คือ Probability นี่คือProbabilityนะครับ นี่เค้าบอกนี่เท่าที่คำนวณออกมา Payoff ratio ที่ 3 ต่อ 1 กำไรเป็นสามเท่าของขาดทุน หมายความว่า พอเราเทรดซักร้อยครั้งใช่มั๊ยครับ เราจะดูว่าไอจำนวนเทรดที่มันกำไรเนี่ยเฉลี่ยแล้วอ่ะมันเป็นกี่เท่าของไอจำนวนเทรดที่มันขาดทุน โอเคมั๊ยครับ แล้วนี่ อันนี้คืออะไร Win Ratio นี่คือเทรดไปร้อยครั้ง มีจำนวนเทรดที่ได้กำไรเนี่ยกี่ครั้ง สมมตินะครับเทรดร้อยครั้งนะ มีสี่สิบครั้งที่เป็นกำไร โอเคมั๊ยครับ แสดงว่า Win Ratio เราก็คือ 40 เนี่ย และนี่ Pay off นี่คือเท่าไหร่ เมื่อกี้บอก 3 ต่อ 1 ใช่มั๊ย ..นี่มีProbability ความน่าจะเป็นคือ 2.5 % ของอะไรที่เราจะเจอความเสียหาย 10% Probabilityก็น้อยมาก เห็นมั๊ยครับ อันนี้ก็ว่ากันไป อันนี้เป็นแบบที่ 1 Mathematic Formula นี่เป็นรุ่นเก่านะครับ…นี่คือรุ่นใหม่นี่ สายQuantนะครับ ใช้ Monte Carlo Simulation ซึ่งเราก็ใส่เขียนโค้ดลงไป นี่..Signal Conditions เป็นยังไง Position Size / Score, %Risk เป็นยังไง Market Analysis เราวิเคราะห์ยังไง และก็ Simulation หลักๆก็นี่ Slippage & Missing Trades เป็นยังไง ใส่เข้าไปในAmibrokerใช่มั๊ยครับ Amibroker ทำการคำนวณเก็บdata มา แล้วเราก็ไปวิเคราะห์ Analysis จดลงมาในexcels นี่..แต่นี่เป็นรูปเฉยๆนะครับนี่ อันนี้ผมโชว์ให้ดูนี่ เวลาผมรัน simulation เนี่ย อันนี้หนึ่งรอบก็เป็นรูปๆนึง สองรอบ..สามรอบ..สี่รอบ..ห้ารอบ นี่แต่ละเคสที่นักศึกษาเห็นก่อนหน้าเนี้ย ไอ6เคสนั่นน่ะ เนี่ยแต่ละเคสผมรัน 1000 รอบ เพื่อให้ได้ตารางอันเนี้ยสรุปให้ดู โอเคมั๊ยครับ คราวนี้เนี้ยทั้งสองกรณีเนี้ยมีทั้งข้อดีข้อเสีย อันแรกเดี๋ยวผมบอกข้อดีก่อน ข้อดีเนี่ย Mathematic Formula เนี่ยจะค่อนข้างใช้เวลาเร็วในการคำนวณหาค่าออกมา ก็แค่ใส่ตัวเลขใช่มั๊ยครับ อันเนี้ยนักศึกษาใส่ Excel ก็ได้แล้วจบไม่มีปัญหาอะไร ส่วนข้อดีของ Monte Carlo Simulation เนี่ยรายละเอียดเยอะ เราสามารถโมเดล complex system, complex strategy ได้ โอเคมั๊ยครับ นักศึกษาต้องเข้าใจนะ …ดูตารางนี้ มันเป็นไปได้มั๊ยเนี่ยที่ condition ต่างกันแต่ตัวเลขออกมาเหมือนกันอย่างนี้นะครับ จะได้ค่านี้เหมือนกัน อันนี้ต้องไปพิจารณานะครับ กลับไปทวนที่ผมพูดล่ะกันว่า “ ไอตารางเนี้ย มันจะใช้ได้ทุกกรณีเลยหรอ ถ้าตัวเลขพวกเนี้ยเท่ากัน Probability/ Risk of Ruin เนี่ยจะใช้ได้ทุกเคสเลยหรอ” เพราะฉะนั้นนี่ข้อเสียของมันก็นะครับในส่วนนี้ก็คือ มัน Missing key variables หรือ direct variables นะครับ and difficult to model complex system อันนี้ข้อเสียของ Mathematic Formula ส่วนข้อเสียของ Monte Carlo Simulation นะครับ คือ Requiring modeling and coding skills คือจะต้องมีความรู้หน่อยที่จะเขียน condition นี่ ทำsimulationวิเคราะห์ออกมานะครับ แล้วก็ time consuming เนี่ย simulation 1000 ครั้งที่ผมรันมาต่อหนึ่งเคสเนี่ยใช้เวลาประมาณเกือบ 20 นาที นักศึกษา อ่ะ..ว่ากันไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเนี่ยตอนนี้นักศึกษารู้แล้วว่า How to determine Risk of Ruin รู้แล้วว่า Risk of Ruin คำนวณยังไง ใช่มั๊ยครับ คำนวณProbabilityยังไง จะใช้คณิตศาสตร์ หรือใช้ Simulation ถัดไปนี่คือแล้ว Ruin ล่ะคืออะไร นี่.. Risk of Ruin เท่ากับ Probability ส่วน Ruin คือ Unbearable Loss ความเสียหายที่รับไม่ได้ นี่..How to determine your Unbearable Loss คือคำว่า ” your” ผมพยายามโฟกัสว่าอะไร “เฉพาะเจาะจงกับนักศึกษา” โอเคมั๊ยครับ หรือกับนักลงทุนท่านนั้นๆ strategyนั้นๆ ไม่ใช่ว่าทุกคนเนี่ยจะต้องมองว่าอะไร นี่.. Is it 100% the entire portfolio? ใช่หรอ เราจะรับไม่ได้เมื่อพอร์ทเราเจ๊ง 100% หรอครับ ผมว่าอันนี้ตลกน่ะ นักศึกษา ลองพิจารณาดูดีๆแล้วกัน หรือว่าจะเป็นแค่ 20 ถึง 34 % นี่ เนี่ยนะครับ ถ้า..นี่ตารางนี้นะครับ เราขาดทุน20%เนี่ยนะครับ strategy เราจะต้องทำกำไร 25% นักศึกษา เพื่อกลับมา breakeven สมมติมีแสนนึงใช่มั๊ย ขาดทุน20%คือ2หมื่น เหลือ8หมื่น ไอ8หมื่นนั่นน่ะจะต้องทำกำไร 25% เพื่อกลับมาอยู่แสนนึงเหมือนเดิม โอเคมั๊ยครับ หรือจะเป็นแค่อะไร Unbearable Loss ของเราจะเป็นแค่ 5 ถึง10% อยู่แค่เนี้ย โอเคมั๊ยครับ ประเด็นคือมันเป็นไปได้มั๊ยที่เราจะสามารถคุมความเสียหายเนี่ยอยู่ระหว่าง 5 ถึง 10% ซึ่งกรณีส่วนใหญ่เป็นไปไม่ได้ ยาก โอเคมั๊ยครับ แล้วอย่าเข้าใจผิดว่าการที่ตั้งstop loss 5% เนี่ยจะได้ผลที่ดีกว่าตั้ง stop loss 10% เยอะกว่าใช่มั๊ยครับ คนส่วนมากคิดว่าตั้ง stop loss น้อยจะได้ค่าดีกว่าตั้ง stop loss มาก ซึ่งไม่จริง โอเคมั๊ยครับ เอ้อ..ลองไปbacktestกันดูว่ามันเป็นไปได้มั๊ย นี่.คราวนี้การที่จะพิจารณา Unbearable Loss ความเสียหายที่รับไม่ได้ / วิบัติ ของนักศึกษา / นักลงทุนนะครับ เราจะต้องพิจารณาหรือรู้ว่า Strategy Return เราเนี่ยเป็นยังไง ตลาดที่เรากำลังลงทุนอยู่เป็นยังไง อันนี้เป็นตลาดขาลงหรือเปล่า หรือตลาดเนี่ยไม่เคยได้กำไรเลย กำไรน้อยมาก 3-4% หรือ 3 ถึง5% ต่อปีเงี้ย หรือบางตลาดเนี่ย emerging market หรือ..อ่า ไม่อยากพูดชื่อล่ะกันครับ return 30% ในช่วงเนี้ยเป็นยังไง แล้วถ้าตลาดเปลี่ยนไปล่ะ เมื่อก่อนนี่กำไร 10-20% ใช่มั๊ยครับ ตอนนี้เหลือประมาณ 10% นิดๆ หรือไม่ถึง10 อย่างเงี้ย ตลาดเปลี่ยนไปเนี่ย เดิมใช้ Unbearable Loss ตัวเดิมรึป่าว มันใช่มั๊ย ? อันที่สามคือ Your Capital Your Revenue นะครับเกี่ยวข้องด้วย รายได้ของเราเนี่ยหรือเงินที่เราเตรียมสำรองไว้เผื่อจะอัดพอร์ทหรืออัดกำไรหรือทบต้นทุนหรือทบขาดทุนน่ะครับว่าเป็นยังไง เพราะฉะนั้นเนี่ยเราจะรู้ Unbearable Loss ความเสียหายที่รับไม่ได้เนี่ยสำหรับตัวเราก็ต่อเมื่อ เราต้องรู้ Your Strategy Your Market and Yourself อ่ะผมก็เอาตัวอย่างสั้นๆมาให้ดูนะครับ อ่ะ..สามเคสนี่ Your Strategyสมมติว่า Strategy เรามี returnประมาณนี้ 27ถึง 29% นี่ เราก็มาดูตาราง %Break-Even Gain อยู่ประมาณ 25% ใช่ไหมครับ เพราะฉะนั้นเนี่ยเราก็อยาก keep your ruin เนี่ย Unbearable Loss อยู่ที่ 20% ..อันนี้จากStrategyของเรา มา..มาดูMarketจากตลาดของเรานะครับ ตัวอย่างละกัน เคส2015นี่ ถ้าเราเฉลี่ยย้อนหลังตลาดไป 5 ปี นี่5ปีนะครับ จะได้ค่าประมาณนี้ 6 กว่าละกัน เราบอกว่าอันนี้จะเป็น maximum ละกัน โอเคมั๊ยครับ ว่า Strategy เราเนี่ยจะไม่ทำกำไรเกินเท่าตัวของตลาด เราก็บอกว่า 6 กว่าก็คูณง่ายๆ คูณ2นะครับ เป็น 13 % เราก็ดูตาราง 13% งั้นแสดงว่าอะไร นี่อยู่ระหว่าง 11% – 17% นี้ใช่ไหมครับ ตัวRuinของเราเนี่ยหรือความเสียหายวิบัติเนี่ย เราก็ควรอยู่ที่ประมาณkeepอยู่ที่ประมาณ / รักษาอยู่ที่ประมาณ 10% ถึง 15% นักศึกษา..เห็นมั๊ยนี่มาจากตลาดนะครับ เราจะเห็นว่าตลาดมีการเปลี่ยนแปลงตลอดนี่ โอเคมั๊ยครับ ต้องวิเคราะห์พิจารณาหน่อยนะครับ อื้ม…ถัดมาก็คือ Yourself แล้วตัวนักศึกษาเองล่ะ อ่ะ..นี่บอกนี่ สมมตินี่อันนี้เกี่ยวข้องกับเงินต้น Initial Equity นี่ เงินต้นมี 500,000 แล้วก็บอกว่าเราเนี่ยสามารถเก็บเงินเพิ่ม Extra cash ได้เดือนละ 10,000 ปีนึงเก็บได้ 120,000 เราอาจจะบอกว่า โอเคเอางี้มั๊ย ถ้าเราขาดทุนนี่ ขาดทุนนะครับ120,000 เลย เทียบจาก 500,000 นี่คือ 24% เราจะเอาเงินเนี่ย Extra cash เติมเข้าไปเพื่อกลับไป Breakeven เพื่อกลับไปเริ่มต้นที่เท่าเดิมที่ 500,000 โดยหวังว่า Strategy เราจะกลับมาทำกำไรให้เรานะครับ โอเคมั๊ย..อันนี้อาจจะ extreme หน่อย แต่พูดให้พิจารณานะครับ อาจจะมีการเติมนี่..อาจจะพอขาดทุนไปแล้ว 24% ปุ๊บให้หยุดเทรด 3 เดือน 6 เดือนตลอด แล้วพอสถานการณ์ดีขึ้นนี่ แทนที่จะเริ่มต้นที่ 380,000 เราบอก เฮ้ย..สถานการณ์กำลังมาดีต้องฉวยโอกาส ก็เอาเงินนี่ที่เก็บไว้สำรองปีนึงทบเข้าไป Breakeven ทั้งหมดนี้นี่มี assumption ว่าจะกลับมา Breakeven ภายใน 1ปีนะครับนี่ อันนี้ CAR นี่ let sayว่าเป็น based on 1 year ..นี่อันนี้เป็น based on 1 year ….based on 1 year นี่ของเราเอง โอเคมั๊ยครับ เพราะฉะนั้นเนี่ย ถ้าเราวิเคราะห์ถึงขนาดนี้ปุ๊บ เราก็บอก อันนี้ 20% ใช่มั๊ย อ่ะ 10-15%, 24% อ่ะ..เอากลมๆละกัน พยายามkeepนี่ พยายามรักษา Unbearable Loss ของเราให้อยู่ที่ 15 ถึง 20% โอเคมั๊ยครับ อันนี้จะจบแล้วนะครับ อ่า..ต้องแยกแยะให้ออกนะครับว่าอันนี้หมายความว่าอะไร หมายความว่าเราต้องพยายามไม่ให้ขาดทุนแย่ไปกว่า 15 ถึง 20% อย่าขาดทุน 15 หรือ 20% นะครับ โดยที่ตอนนี้เรารู้นี่ว่าห้ามขาดทุนเท่าไหร่ ใช่มั๊ยครับ ต่อไปเราก็ย้อนกลับมาเช็คได้ ว่าไอที่ นี่..ขาดทุน 15 ถึง 20% strategy เรามีความเป็นไปได้เท่าไหร่ เห็นมั๊ย ความเป็นไปได้ที่จะขาดทุนระหว่างนี่อยู่นี่ 20 ถึง 15% ความเป็นไปได้อยู่ที่เท่าไหร่ ความเป็นไปได้คือ Risk of Ruin …อันนี้คือ Unbearable Loss ความเสียหายวิบัติที่เราไม่อยากให้เกิด worst case – Probable Worst Case โอเคมั๊ยครับ อื้ม…เรียบร้อยนะครับ ก็ยินดีด้วยนะครับ ตอนนี้นักศึกษาก็รู้แล้วนะครับว่า Risk of Ruin คืออะไร ..Probability แล้วรู้ว่าจะคำนวณหา Unbearable Loss ความเสียหายที่นักศึกษารับไม่ได้เนี่ย ให้พิจารณาจากอะไร แล้วก็ใส่ simulation เนี่ยไปคำนวณ Probability หรือใส่ mathematics มาหา Probability ออกมาเองได้ อ่ะ..ทั้งนี้ทั้งนั้นนะครับ ก็จบวิดีโอแต่เพียงเท่านี้นะครับและก็ Don’t stop here. Learn More… ก็ไปว่ากันต่อ ขอบคุณครับนักศึกษาครับ

Links & Videos อื่นๆที่เกี่ยวข้อง